บาคาร่าเว็บตรง อดีตกัปตันการบินไทย แฉเครื่องเคยเกือบน้ำมันหมดกลางอากาศ

บาคาร่าเว็บตรง อดีตกัปตันการบินไทย แฉเครื่องเคยเกือบน้ำมันหมดกลางอากาศ

บาคาร่าเว็บตรง การบินไทย – นายแพทย์กรพรหม แสงอร่าม ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก หรือ หมอต้วง อดีตกัปตันการบินไทย โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว บอกเล่าเรื่องราว ‘เกือบตายโหงทั้งลำ ที่มาเก๊า’ สาเหตุเนื่องจากทางสายการบินคำนวณน้ำมันให้มาน้อย หลังจากนั้นเจ้าตัวกลับโดนประเมินได้คะแนนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ทั้งที่ใช้ความสามารถสูงสุดเพื่อให้ผู้โดยสารปลอดภัย

โพสต์ดังกล่าว ระบุว่า:ก่อนอ่าน ทำใจเป็นกลาง ไม่ต้องเข้าข้างใครทั้งนั้น ข้อชี้แจง

ผมไม่ได้ตีโพยตีพาย เพื่อเรียกร้องผลประโยชน์เพื่อตนเอง เพราะยังไงผมก็ลาออกและได้รับอนุมัติแล้ว

ผมต้องการเล่าเรื่องเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ถูกประเมินคนอื่นๆที่ยังต้องอยู่ในองค์กรต่อไปและเพื่อให้เกิดความโปร่งใส

ผมไม่ได้โกรธใครเป็นการส่วนตัว เพราะนี่คือระบบที่ผมคิดว่าไม่สมบูรณ์ กัปตันที่สั่งน้ำมัน minimum ตามการคำนวณที่ถูกต้องแล้วในปัจจุบัน ไม่ใช่สิ่งที่ผิดและสามารถกระทำได้ กัปตันที่สั่งน้ำมันเพิ่ม (extra) จากดุลยพินิจแต่ละเที่ยวบินเพื่อความปลอดภัยก็ “ไม่สมควรถูกตัดคะแนน” เช่นกัน

การนำข้อมูลการสั่งน้ำมันเพิ่มมาหักคะแนนโดยพิจารณาไม่ครบทุกมิติ ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เช่นที่ทำกันอยู่และประเมินผมโดยไม่เป็นธรรม จึงเป็นที่มาของเรื่องราว

ผมจึงต้องเล่าเรื่องเป็นฉาก ๆ อธิบายยาวมาก ๆ ให้ผู้อ่านได้เข้าใจว่า ความไม่เป็นธรรมเป็นอย่างไร

ผมไม่ได้กล่าวหาว่ามีการทุจริตเพื่อช่วยเหลือพวกพ้องหรือคนใดคนหนึ่ง แต่การใช้เกณฑ์ที่ไม่เป็นธรรม ก็ยังคงไม่เป็นธรรมต่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเพราะได้มาด้วยเกณฑ์ที่ไม่เหมาะสม ส่วนผู้ไม่ได้รับการคัดเลือกก็ยังสงสัยค้างคาใจ ผมอาจจะให้สัมภาษณ์สื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อขยายความและยินดีรับฟังข้อโต้แย้ง

Take off ละนะ

ผดส.ครับ….ผมขอโทษ….ผมผิดเอง

ไฟล์ทนึง สมัยผมยังประสบการณ์น้อย ๆ เป็นเด็กดีเชื่อฟังผู้ใหญ่ บินไปกวางเจา ด้วยน้ำมัน minimum fuel ที่เค้าโปรดปราน ไม่หนักเครื่อง ประหยัดเงิน รณรงค์กันยกใหญ่นี่แหละ ใครไม่สั่งเพิ่ม เอาไปเลยคะแนนเต็มสิบไรเงี้ย ทำทุกอย่างตามที่สำนักงานเค้าคำนวณมา (แบบที่บางคนกินปูนร้อนท้องออกแถลงการณ์น่ะแหละ)

ซึ่งตามกฏการบิน จะประกอบด้วยน้ำมันจาก กทม-กวางเจา บวกยิบย่อยอีก 5% เผื่อนู่นนี่ และ ถ้าลง กวางเจาไม่ได้เพราะอะไรก็ตาม ก็มีน้ำมันสำหรับ กวางเจา-ฮ่องกง และมีน้ำมันสำรองบินวนช้า ๆ ต่ำ ๆ อีก 30 นาที

(ไปไหนไม่ได้ไกลหรอก) สรุป = กทม-กวางเจา-ฮ่องกง และสำรองอีก 30นาที ก็ประมาณ 20 ตัน

น้ำมันสำรอง 30 นาที เราเรียกว่า final reserve fuel ซึ่งน้ำมันสำรองนี้ ห้ามแตะเด็ดขาด ถือเป็นน้ำมันก้นถังเลยทีเดียว เหมือนเงินขวัญถุง ใครบินลงมาแล้วน้ำมันเหลือน้อยกว่า final reserve แม้ว่าจะจิ๊ดเดียวก็ ถือว่า ตายไปแล้วครึ่งตัว เรื่องใหญ่มาก serious incidence อาจถึงติดคุก

เครื่องบินจะสั่งน้ำมัน หน่วยเป็น ตัน หรือ 1,000 กิโล เครื่องบิน ขณะบินระดับจะกินน้ำมันประมาณ 1 ตัน/สิบนาที แต่ถ้าขณะเร่งเครื่องวิ่งขึ้น (take off ) หรือลงสนามไม่ได้แล้วเชิดหัวขึ้น (go around) ตันนึงอาจใช้ได้เพียงหนึ่งนาที ย้ำว่า 1 นาที ต่อ 1,000 กิโลกรัม ดังนั้น ตันนึงนี่ จิ๊บ ๆ มาก เยอะมั้ย? เอาง่ายๆ A380 แค่วิ่งช้าๆบนพื้นไปตั้งลำวิ่งขึ้นที่หัวสนามใช้น้ำมัน ตันนึงนี่แหละ

วันนั้นผมทำการร่อนลงที่กวางเจา (พยากรณ์อากาศเเจ่มใส) แต่ความซวยคือพอไปถึงจริง ๆ ดันมีพายุเข้า จะวนรอก็ไม่มีน้ำมันมาเผื่อให้วน (ก็เอา minimum น้อยที่สุด มาไง) เอาวะลองลงไปก่อน ไม่เห็นค่อยว่ากัน ตามที่รายงานมามันยังไม่ต่ำกว่าลิมิตที่สามารถทำการร่อนลงได้

แต่ชีวิตจริงคือ พอเจอฝนเหมือนขับรถแล้วโดนสาดสงกรานต์อะ มองไม่เห็นสนามจึงต้องเชิดหัวเครื่องขึ้นใหม่ (Go around) หลุดพายุฝนมาได้ก็หมดไปตันกว่า ๆ แล้วนะ และไต่หาระยะสูง ขึ้นไป 6000 ฟิต เพื่อหลบภูเขา ทิศทางที่ไต่ ตามมาตรฐานสนามบินจะไปคนละทางกับฮ่องกง เมื่อทุกอย่างปลอดภัย หอฯถามว่า จะเอาไง จะลองกลับมาลงอีกรอบมั้ย หรือจะไปฮ่องกง ผมบอกว่า ฝนเข้าแบบนี้ ขอไปฮ่องกง หอก็โอเค ๆ ให้เลี้ยวกลับหันไปทางฮ่องกง ไต่ขึ้น 9000ฟิต

พีคมันอยู่ตรงนี้ นักบินอีกท่านที่ก้มหน้าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ร้องออกมาสุดเสียงว่า “เฮ้ยต้วง ชิบหา_แล้ว น้ำมันไม่พอ” ผมก็เฮ้ย ตกใจสุด ๆ บอกไปว่า มันจะไม่พอได้ไง เราเติมน้ำมันมาตามกำหนดทุกอย่าง ยังไม่ได้ไปบินวนรออะไรสักนิดเลย เค้าก็ยืนยันให้ผมดูที่จอ ซึ่งเค้าก็ไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดเลย เรามองหน้ากันเลิกลั่กสองคน เหงื่อโง่เริ่มออก ตามองไปที่จอภาพ ข้างหน้า สมองคิดๆๆๆๆ มองไปข้างนอกเห็นแต่เมฆขาว ๆโพลนไปหมด มองพื้นก็ไม่เห็น เครื่องก็ไปข้างหน้า ความเร็วเกือบห้าร้อยกิโล/ชั่วโมง ทุกวินาทีที่ผ่าน คือตัวเลขน้ำมันที่น้อยลงเรื่อยๆ และระยะทางที่จะไกลกวางเจาออกไปเรื่อย ๆ

เค้าพูดด้วยความดีใจต่อมาว่า เฮ้ยนี่ มาเก๊า มาเก๊า หลังจากเหลือบไปดูที่จอ โหย ผมรู้สึก เหมือนพระมาโปรด ผมขอให้เค้าเปิดฟังข่าวอากาศมาเก๊า ด้วยความดีใจ แต่เเล้ว ความหวังก็ริบหรี่ลงอีกครั้ง อากาศที่มาเก๊า แย่พอ ๆ กับกวางเจา (ทำไมกูซวยสามัคคี งี้วะ) เครื่องนำร่องลงสนามที่มาเก๊าก็ เป็นแบบโบราณ มีข้อจำกัดคือมันจะนำเรามุดเมฆลงไปได้ จนถึงแค่ระดับ 700 ฟุต แล้วเราต้องมองเห็นไฟนำร่องเสียก่อนจึงจะต้องปลดออโต้ไพลอต แล้วเลี้ยวตามไฟโง่ ๆ ยี่สิบดวง เกาะมันไปให้พอดีห้ามขาดห้ามเกิน ห้ามสูงไปต่ำไป ห้ามเร็วเกินไป ไม่งั้นวงเลี้ยวจะกว้าง เเละต้องร่อนลงให้พอดี ไม่หมูเลยฮาฟ ขอบอก ถ้าผีออก บินไม่ดีทะรูดทะราด (non-stabilized approach) ก็ต้องดึงหัวเชิดขึ้นใหม่ (go around) บาคาร่าเว็บตรง